
12 วัฒนธรรมองค์กรที่น่าเอาอย่างในปี 2021

Zappos พนักงานมีความสุขนำไปสู่ลูกค้าที่มีความสุขในที่สุด
1.การจ้างผู้สมัคร
พนักงานใหม่จะได้รับการเสนอ $ 2,000 เพื่อลาออกหลังจากการฝึกอบรมสัปดาห์แรกหากพวกเขาตัดสินใจว่างานนั้นไม่เหมาะกับพวกเขา ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะการที่เรารับพนักงานที่ดีคนหนึ่งเขาทำงาน เขาจะทำสิ่งดีๆให้กับบริษัท
2. ถ่อมตัว
ถ้าต้องการจะได้งานที่ Zappos คุณจะต้องแสดงถึงความถ่อมตัว หรือ Humble โดยใช้คำว่า We แทน I เนื่องจากทางบริษัทมองว่าการถ่อมตนเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการทำงานมากกว่าพวกที่มีแต่ความมั่นใจในตัวเอง และพอเข้ามาเป็นพนักงานใหม่แล้วก็ต้องผ่านการอบรมอีกสี่สัปดาห์ ในช่วงนี้วัฒนธรรม
3.ใกล้ชิด
ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับพนักงานระดับล่างทำงานแบบเดียวกับลูกน้องได้
4. ไอเดีย
คอยกระตุ้นให้พนักงานเสนอไอเดียใหม่ๆอยู่เสมอ และให้รางวัลกับคนที่เสนอไอเดียใหม่ทั้งที่ทำแล้วพลาด
5.ค่าตอบแทนสูง
พนักงานแต่ละคน เป็นต้น Zappos ยังเลือกที่จะจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานในระดับล่างในอัตราที่สูงกว่าค่า เฉลี่ยของตลาด แต่จ่ายค่าตอบแทนให้พนักงานระดับบนในอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เพื่อลดช่องว่าง ระหว่างพนักงาน

Warby Parker ส่งพนักงานแบบสุ่มไปทานอาหารด้ายกัน
1. ทีมเพื่อสังคม
การสร้างทีมงานเฉพาะที่ได้รับมอบหมายให้จัดกิจกรรมและโปรแกรมเพื่อส่งเสริมชุมชน วัฒนธรรมของ บริษัท ที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นเอง
2. ทีมเพื่อองค์กร
ส่งพนักงานแบบสุ่มไปรับประทานอาหารกลางวัน ด้วยกัน
3. ทีมเพื่อตนเอง
การจัดกิจกรรมสนุกๆ ระหว่างมื้อกลางวัน โปรแกรมอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อความเพลิดเพลิน

Southwest Airlines เชื่อมั่นในเป้าหมายร่วมกัน
1. เล่นกันได้
พนักงานสามารถพูดหยอกล้อกันตามระบบกระจายเสียงได้สบาย พวกเขาสามารถทำงานอย่างมีความสุขได้
2. สนับสนุนไอเดีย
สนับสนุนให้คนในองค์กรเสนอไอเดีย โดยกำหนดว่าใครก็ตามที่ได้รับไอเดียจะต้องตอบกลับภายใน 1 อาทิตย์ โดยเสนอได้แม้กระทั้งหัวหน้าแผนกหรือประธานบริษัท
3. ไม่เลิกจ้าง
องค์กรไม่มีการเลิกจ้างพนักงาน รักษาพนักงานไว้แม้กระทั้งเสียกำไรไปบางส่วน เพราะเขามองว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงมาจากคนในองค์กร

Twitter พนักงานต้องมีความสุข
1. ทานอาหารฟรี
พนักงานทวิตเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ซานฟรานซิสโกได้ทานอาหารฟรีทุกมื้อ
2. สิทธิพิเศษ
มีโยคะคลาส ไปพักร้อนแบบไม่มีลิมิต และยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ
3. Team-Oriented
เป็นการประชุมบนดาดฟ้า สภาพแวดล้อมที่ทำงานแบบ team-oriented ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่มีแรงผลักดันในการทำงานเพื่อเป้าหมายสูงสุดของบริษัท
4. Work Anywhere Anytime
พนักงานสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานที่บ้านถาวรหรือกลับมาทำงานที่บริษัท Team-Oriented

Chevron พนักงานต้องปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดี
1. สุขภาพมาก่อน
จัดเตรียมศูนย์สุขภาพและฟิตเนสในสถานที่หรือผ่านการเป็นสมาชิกสโมสรสุขภาพ มีโปรแกรมเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เช่นการนวดและการฝึกอบรมส่วนบุคคล
2. ความเป็นอยู่ที่ดีสำคัญมาก
พนักงานหยุดพักตามปกติ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและพนักงานรู้ว่าพวกเขามีคุณค่า รวมทั้งการจัดสรรช่วงเวลาเบรกที่เหมาะสม

SquareSpace เรียบง่าย เปิดกว้าง และสร้างสรรค์
1. มอบสิทธิประโยชน์
สิทธิประโยชน์มากมายรวมถึงความคุ้มครอง 100% ของเบี้ยประกันสุขภาพ และมีวันหยุดพักผ่อนที่ยืดหยุ่น
2. Lunch&Learn
มีการเชิญแขกมาช่วยแลคเชอร์เพิ่มเติมความรู้ให้ในบางครั้งอีกด้วย
3. การเฉลิมฉลองประจำเดือน
ฉลองวันสำคัญๆของพนักงาน มีอาหารจัดเลี้ยง สถานที่พักผ่อน

REI ประชุมแบบ Town Hall ใจถึงใจ
1. ทำงานนอกสถานที่ได้Outdoors-Oriented
CEO ของ REI ยอมรับว่าพนักงานสามารถรับผลประโยชน์ได้จากทุกที่ อนุญาตให้พนักงานทำงานนอกสถานที่ได้
2. Town Hall
มีการประชุมแบบ Town Hall เป็นประจำจะจัดขึ้นซึ่งพนักงานสามารถส่งคำถามโดยไม่ระบุตัวตนเพื่อช่วยให้ฝ่ายบริหารเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในบริษัท

Adobe ไม่ใช้คะแนนจำกัดความคิดสร้างสรรค์
1. ไม่ใช้คะแนนประเมินพนักงาน
ไม่ได้ใช้การให้คะแนนเพื่อสร้างขีดความสามารถของพนักงานเนื่องจากรู้สึกว่าสิ่งนั้นขัดขวางความคิดสร้างสรรค์และเป็นอันตรายต่อการทำงานของทีม ผู้จัดการมีบทบาทเป็นโค้ชมากกว่าสิ่งอื่นใดโดยให้พนักงานกำหนดเป้าหมายและกำหนดว่าควรประเมินอย่างไร
2. ท้าทายเพื่อให้สำเร็จ
ท้าทายพนักงานด้วยโปรเจ็คต์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และยังแบ่งปันความซื่อสัตย์และสนับสนุน เพื่อช่วยให้พนักงานทำภารกิจที่ท้าทายนั้นๆ ให้สำเร็จ ในขณะที่ยังให้ข้อเสนอผลตอบแทนที่มากมาย
3. ให้สิทธิ์พนักงาน
บริษัทยังให้หุ้นแก่พนักงานอีกด้วย เพื่อที่จะทำให้รู้สึกว่าการทำงานของเขามีทั้งการเดิมพัน และได้รับรางวัล อีกทั้งวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้ลองกับความเสี่ยง โดยปราศจากความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม

Facebook ดึงสิ่งที่ดีที่สุดของทุกคนออกมาให้ได้
1.สถานที่ผ่อนคลาย
จัดสรรสถานที่ให้เกิดความผ่อนคลายแก่พนักงาน โดยสร้างพื้นที่ Out door เพื่อพักผ่อน และยังมีสถานที่ทำงานแบบเปิด
2.ดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมา
วัฒนธรรม ที่ Lori Goler ผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์ (Vice President of People) ของ Facebook ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับ Glassdoor คือ
– ใส่ใจและใช้เป้าหมายเป็นตัวตั้ง
– ผู้บริหารต้องสนับสนุน
– ดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคนออกมาให้ได้
– สนับสนุนให้ทุกคนทำงานด้วยวิธีการของตัวเอง
-ใส่ใจพนักงาน ทั้งในและนอกเรื่องงาน
– ได้สร้างห้องประชุมมีอาคารแยกต่างหากพื้นที่โรมมิ่งกลางแจ้งจำนวนมากสำหรับการหยุดพักและมีผู้บริหาร (แม้แต่ CEO Mark Zuckerberg) ที่ทำงานในพื้นที่สำนักงานแบบเปิดร่วมกับพนักงานคนอื่น ๆ เป็นความพยายามที่วัฒนธรรมองค์กรแบบเรียบโดยใช้อาคารและพื้นที่เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างการแข่งขัน

Google บรรยากาศแบบมหาวิทยาลัย
1. การเข้าถึงของพนักงาน
วันแรกของการทำงานพนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงโค้ดๆ ต่างของ Google ได้
2. การแต่งกาย
ให้อิสระพนักงานแต่งกายแบบฟรีสไตล์มาทำงาน
3. บรรยากาศแบบมหาวิทยาลัย
พยายามสร้างขึ้นคือ “บรรยากาศแบบมหาวิทยาลัย” ซึ่งนักศึกษาใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยเกือบตลอดเวลา และมองว่าถ้า smart creative อยากมาทำงานในสถานที่แบบนี้ พวกเขาก็จะยินดีใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานอยู่กับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
4. TGIF
บริษัทมีช่วงรีแลกซ์ให้ ทุกวันศุกร์ เป็นกิจกรรมพิเศษ TGIF พนักงานทุกคนจะต้องปิดคอมพิวเตอร์ใน เวลา 16.00 น. แล้วหันมาทำกิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนๆ รวมทั้งเปิดโอกาสถามตรงถึงผู้บริหารได้โดยตรงด้วย
5. ทีม
จัดทริปเที่ยวให้พนักงาน ปาร์ตี้ โบนัส ยิม สิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร

Netflix วิจารณ์กันต่อหน้าห้ามพูดลับหลัง
1. อิสระ
ส่งเสริมให้พนักงานได้ตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างมีอิสระ
มีกฎระเบียบให้น้อยที่สุด เช่น ความอิสระของพนักงาน สามารถลาพักร้อนเมื่อไรก็ได้ไม่มีเวลากำหนด เพราะบริษัทเชื่อว่าเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวของทุกคน ผสมเป็นส่วนเดียวกันอยู่แล้ว ฉะนั้นเขาไม่สนใจว่าคนจะทำงานมากน้อยแค่ไหน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ต้องออกมายอดเยี่ยม
2. เปิดเผย
ทุกข้อมูลต้องเปิดเผยอย่างกว้างขวางและเท่าเทียม
3. วิจารณ์ต่อหน้า
ต้องวิจารณ์กันต่อหน้า ห้ามพูดลับหลัง
4. ศูนย์รวมคนเก่ง
องค์กรรักการแข่งขัน เก็บแต่คนที่ทำงานเก่งไว้เท่านั้น

Starbucks เป็นเจ้าของร่วมกัน
1. Pro-Active
มีเป้าหมายให้พนักงานทุกคนรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของร้านร่วมกัน สร้างทัศนคติแบบ Pro-Active ให้กับพนักงาน สร้างนิสัยที่หากเห็นว่าสิ่งใดเป็นผลดีต่อร้าน ก็จะทำโดยทันทีไม่ต้องรอสั่งการ
2. พนักงานโชว์ศักยภาพได้
มี Engagement Program ซึ่งพาร์ทเนอร์สามารถโชว์ศักยภาพได้หลายอย่าง เช่น เราจะมีการแข่งขันเรื่องเครื่องดื่ม พาร์ทเนอร์สามารถคิดเครื่องดื่มสูตรของเค้าขึ้นมา เราเรียกว่า Barista Signature ถ้าคุณชนะ เครื่องดื่มนั้นจะมาขายที่ร้าน ซึ่งตอนนี้กลายเป็น Core ไปละ ชื่อ Matcha White Choccolate Affogato
3. วันหยุด
มีวันหยุดวันเกิด วันพิเศษแบบนี้ ก็เปิดกว้างให้ไปอยู่กับแฟนหรือพักผ่อนกับครอบครัวได้ ที่เหลือก็เป็นวันหยุดตามธนาคาร
4. มอบหุ้น
เพื่อการตอบแทน Partner มอบโอกาสให้เป็นเจ้าของสตาร์บัคด้วยการมอบหุ้นให้ Bean stock, Restrict stock unit
5. ให้รางวัล
มอบของสิ่งตอบแทนในเทศกาลต่างๆให้กับ
พนักงานทุกคน กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนรวมกับบริษัท