Sesamilk

แบรนด์สุขภาพน้องใหม่สานต่อธุรกิจครอบครัว
โดยคุณ ศิริเพ็ญ สุนทรมั่นคงศรี
เพิ่มมูลคำให้ “งา” ด้วยนวัตกรรมการแปรรูป
สู่การเป็น “น้ำนมงา เจ้าแรกของโลก”

====================================

✨วัฒนธรรมSesamilk คืออะไร

คือการไม่ปล่อยผ่านเสียงลูกค้า

ใส่ใจกับการทำแบบสอบถามกับคน 400 คน ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้เห็นกลุ่มตลาดที่กว้างขึ้น จากเดิมคิดว่ากลุ่มลูกค้าน่าจะเป็นกลุ่มเด็กแพ้นมวัว แต่กลับได้พบกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เช่น กลุ่มผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ กลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มคนวัยทำงาน กลุ่มคนที่กินอาหารจากพืช (Piant-based Food) และคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องการกินที่ต้องส่งผลกระทบต่อโลกน้อยที่สุด(Ethical Eating)

===================================

✨ฟังลูกค้าแล้วได้อะไร

1. ได้สินค้าสูตรใหม่ตรงใจผู้บริโภค

คือแบบไม่มีน้ำตาลนอกเหนือจากสูตร Original ที่แม้
จะมีความหวานน้อยอยู่แล้ว ซึ่งทั้งหมดมาจากการถามลูกค้าและกลายเป็นว่า สูตรนี้ขายดีมากจนขาดตลาดอยู่ในตอนนี้

2. ได้ตลาดใหม่ขยายโอกาสทางธุรกิจ
การตั้งคำถามของลูกค้าอย่างเช่น นอกจากกินเป็นนมแล้ว ยังเอาไปใส่กับอย่างอื่นได้ไหม

เสียงเหล่านี้เป็นตัวจุดประกายให้แบรนด์ขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ อย่าง HORECA หรือกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ เช่น หลายคนเอานมของเราไปทำแกง ใช้แทนกะทิ ทำเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ บางคนเอาไปมูนข้าวเหนียว

3. ได้อาวุธธุรกิจ
การนำข้อมูลของคนที่เป็นลูกค้าตัวจริงมาเป็นธงนำทาง ข้อมูลที่มาวิเคราะห์มากที่สุดคือ คนที่ซื้อจริงๆ เช่นคอมเมนต์ในช่องทางการขายของ Shopee
สิ่งนี้มีค่ามาก เพราะนี่คือ เสียงจากลูกค้า ที่ซื้อจริง เสียงินจริง และมีความตั้งใจจริง ยอมเสียเวลาที่จะมานั่งกดให้คะแนนและพิมพ์คอมเมนต์ให้กับเรา (ข้อมูลฝั่งe-commerce วิเคราะห์ผ่าน Microsoft Power BI)

4. ได้การประเมินการรับมือกับคำร้องเรียน
หากได้เห็นฟีดแบคที่นำไปสู่การเข้าใจคลาดเคลื่อนก็จะได้แก้ไขทันเวลา ง่ายกว่าปล่อยให้กลายเป็นประเด็นบานปลาย

==============================

อย่าลืมกดติดตามสาระดีๆอย่างสม่ำเสมอด้านการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจพร้อมกรณีศึกษาที่เข้าใจง่ายผ่านเพจ Pang Kanokwan กันด้วยนะคะ ❤️

Source :
K SME INSIRED Nov 2020 หน้า 30-36